ความเครียด อาหารจานด่วน งบน้อย...ยังมีอุปสรรคอีกมากมายที่กั้นกลางระหว่างคุณกับน้าหนักในฝันแต่เราสามารถช่วยคุณทลายลงได้
คุณรู้สึกว่ากำลังมาถึงทางตันหรือเปล่า ใจเย็นๆ นะครับ เราทุกคนล้วนเคยไปถึงจุดนั้นมาก่อน ไม่ว่าจะวิถีชีวิตยุ่งๆ ความคาดหวังต่อตัวเองสูง และความเครียดไหนจะต้องรักษาสมดุลระหว่างเรื่องงานและเรื่องเล่นอีก ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นอุปสรรคท้าทายเป้าหมายในการรักษารูปร่างของคุณ การวิจัยจาก careerbuilder.com แสดงให้เห็นว่าคน 1 ใน 10 กินมากขึ้น ซึ่งเป็นผลจากความกังวลด้านการเงินและชั่วโมงทำงานที่ยาวนานขึ้นในแต่ละวัน แต่ถ้าหากคุณปรับไลฟ์สไตล์ให้เหมาะสม และเรียนรู้เคล็ดลับจากความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ล่าสุดเพียงเล็กน้อย การลดพุงก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินฝันไม่ว่าชีวิตของคุณจะต้องพบเจอกับอะไรที่ถาโถมเข้ามาก็ตาม นำเคล็ดลับเหล่านี้ไปใช้เพื่อขจัดทุกอุปสรรคบนเส้นทางสู่น้ำหนักตัวในฝันของคุณ
1. อาหารยามเงินฝืด
องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติระบุว่าค่าอาหารเย็นมีราคาสูงที่สุดในรอบสองปี ราคาอาหารที่เพิ่มขึ้นบังคับให้เราจาต้องตัดเมนูอาหารเพื่อสุขภาพบางอย่างทิ้งไป แล้วแทนด้วยอาหารซึ่งอุดมด้วยคาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงานเร็วและอาหารว่างที่กินง่าย อิ่มท้อง “แต่ถ้าอาหารที่คุณกินมีคาร์โบไฮเดรตสูง คุณก็จะลดน้าหนักไม่สาเร็จ” ดร.จอห์น บริฟฟา ผู้เขียนหนังสือ Waist Disposal เตือนขจัดอุปสรรค เศรษฐศาสตร์ไม่จาเป็นต้องชนะคุณค่าทางโภชนาการเสมอไปแทนที่จะเดินเข้าร้านหรู คุณก็สามารถปรุงอาหารที่ราคาไม่แพงรับประทานเองได้โดยไม่จาเป็นต้องชะลอแผนการลดน้าหนัก เฮเลน ไรลีย์ นักวิทยาศาสตร์สาขาโภชนาการประจามูลนิธิโภชนาการแห่งสหราชอาณาจักร กล่าว อาหารสดจากธรรมชาติ รวมทั้งเนื้อสัตว์และผักออร์แกนิกเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด “ลองทาอาหารง่ายๆ อย่างผัดหมี่ใส่ผักและเนื้อไม่ติดมัน หรือแฮมกับมันฝรั่งต้มและผักลวก” ไรลีย์แนะนา อาหารเหล่านี้ไม่แพง ไขมันต่า และมีคาร์โบไฮเดรตมากพอที่จะระงับความหิวได้
2. ออกก าลังกายมากเกินไป
การวิ่งบนสายพานไม่ได้ให้ผลดีอย่างที่ คุณคิด เพราะคนที่โหมออกกำลังกาย แบบใช้ออกซิเจนมีแนวโน้มที่จะทานอาหารมากขึ้น นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยลุยเซียนาสเตทในอเมริกาเชื่อว่าคนกลุ่มนี้กินเพื่อจะเก็บสะสมพลังงานทดแทนส่วนที่สูญเสียไป จนกลายเป็นได้รับแคลอรีมากกว่าที่เผาผลาญในระหว่างการออกกำลังกายอย่างไม่ตั้งใจขจัดอุปสรรค การออกกำลังกายแบบใช้แรงต้านเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในการลดน้ำหนัก นอกจากช่วยสร้างกล้ามเนื้อแล้วยังช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย ซึ่งหมายถึงปริมาณแคลอรีที่ใช้ไปมากขึ้นด้วย ลองฝึกด้วยโปรแกรมฝึกกล้ามเนื้อนาน 12 นาทีเป็นประจำทุกวัน“หกนาทีแรกเน้นที่การออกกำลังร่างกายส่วนบน เช่น Press-up, Shoulders Press, Curl and Crunch” ดร.บริฟฟากล่าว อีกหกนาทีที่เหลือให้ผสมกันระหว่างการวิ่งอยู่กับที่และเล่นท่า Squat ซึ่งไม่เพียงแค่คุณจะลดน้ำหนักได้เร็วกว่า แต่ยังได้หุ่นนักกีฬาแถมมาด้วย
3. กินไวจนไม่ผอม
ถ้าคุณมีเวลาน้อยตอนช่วงพักกินข้าวคุณก็อาจจะมีไขมันมากได้ การศึกษาต่างๆจาก American Survey of Obesityพบว่าคนที่ยุ่งเกินกว่าจะรับประทานอาหารเช้ามีโอกาสเป็นโรคอ้วนมากกว่าคนที่กินอาหารเช้าถึง 4.5 เท่าขจัดอุปสรรค “รับประทานโปรตีนคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน และไขมันที่จำเป็นภายในสองชั่วโมงครึ่งหลังจากตื่นนอน”เอียน มาร์เบอร์ นักโภชนาการและที่ปรึกษาประจำคลินิกของ The FoodDoctor (thefooddoctor.com) กล่าวลองทำแซนด์วิชจากเบเกิลแบบผสมธัญพืชสอดไส้ด้วยปลาซาร์ดีนประป๋องแล้วก็อย่าลืมลดความเร็วในการรับประทานอาหารแต่ละมื้อให้ช้าลงด้วยงานวิจัยในวารสาร British Medical Journal พบว่าการฝึกเคี้ยวช้าๆ ระหว่างรับประทานอาหารเย็นทำให้คุณมีโอกาสน้ำหนักเกินมาตรฐานน้อยลงสามเท่าใส่เบรคเวลารับประทานอาหารแล้วคุณจะลดน้ำหนักเพิ่มได้อีก
4. ความเครียดเพิ่มน ้าหนัก
มีความเป็นไปได้สูงว่าคุณจะทุ่มเททางานมากเกินไปในแต่ละวันจนไม่มีเวลาใส่ใจเรื่องการลดน้าหนัก งานวิจัยจากบริษัทที่ปรึกษาทางธุรกิจ Right Management แสดงให้เห็นว่าคนจานวน 79 เปอร์เซ็นต์ต้องเผชิญกับภาระงานที่เพิ่มขึ้นหากเทียบกับเมื่อสองปีก่อน ความเครียดที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นอุปสรรคต่อการลดน้าหนักเพราะคุณจะบริโภคน้าตาลเพิ่มมากขึ้นด้วยขจัดอุปสรรค สเต็กเนื้อแดงสามารถช่วยเพิ่มระดับโดพามีน และลดความเครียด ทั้งยังเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีที่สุดที่คุณจะหาได้ด้วย งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยวอชิงตันพบว่าโปรตีนในอาหารที่เพิ่มขึ้นจะช่วยยับยั้งฮอร์โมนที่กระตุ้นความหิวได้ และถ้าจะให้ดียิ่งกว่านั้นก็ต้องเข้าคู่กับน้าเชอร์รีซึ่งช่วยลดอาการอาหารไม่ย่อยจากความเครียดได้ เพียงดื่มหนึ่งแก้วก่อนเข้านอน คุณจะตื่นนอนตอนเช้าอย่างสบายตัวมากขึ้นและมีแนวโน้มที่จะแวบไปหาของกินกรุบกริบตอนสิบเอ็ดโมงน้อยลง
5. ยิ่งฝืนก็ยิ่งกิน
วารสาร Appetite รายงานว่าคนที่พยายามระงับความคิดเกี่ยวกับอาหารโปรดของตนเองมักจะกินอาหารนั้นมากกว่าเดิม แต่คนที่พูดถึงการกินอาหารที่มีประโยชน์อย่างเปิดเผยจะรับประทานอาหารน้อยครั้งและในปริมาณที่น้อยกว่าด้วยขจัดอุปสรรค เลิกฝืนอดกลั้นไม่กินอาหารโปรด แม้ว่าจะเป็นอาหารไขมันสูงอย่างฟิชแอนด์ชิปส์ก็ตาม “การตั้งเป้าอย่าง ‘ฉันจะไม่กินไก่ทอดอีกเด็ดขาด’ เป็นวิธีการที่ไม่ดีในการควบคุมตัวเอง” เจมส์ เอิร์สกิน ศาสตราจารย์ทางด้านจิตวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์ตฟอร์ดเชอร์กล่าว “คุณควรบอกตัวเองว่า ‘ฉันจะกินไก่ทอดให้น้อยลงและถ้ากินของชอบเดือนละครั้งก็ไม่เสียหายอะไร’” งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียพบว่าเมื่อผู้เข้าร่วมการวิจัยได้รับรางวัลเป็นครั้งคราว พวกเขาสามารถลดน้าหนักได้ 7.2 กิโลกรัมภายในสี่เดือน ซึ่งมากกว่าคนที่ไม่ได้รับรางวัลถึง5.4 กิโลกรัม
เรื่อง Rob Kemp / Men’s Health UK แปลและเรียบเรียง limeiya
บทความแนะนำ
No comments:
Post a Comment